เจาะลึก !! ภาควิชาทัศนศิลป์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
สวัสดีครับ … ท่านผู้อ่านทุกท่านหรือน้อง ๆ ทุกคนที่กำลังสนใจหรืออยากเข้าศึกษาต่อทางด้านศิลปะในระดับอุดมศึกษา ผมชื่อ สุดยอด ควบคุม ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ที่คณะศิลปกรรมศาสตร์ ภาควิชาทัศนศิลป์ มหาวิทายาลัยกรุงเทพ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าสาเหตุที่ผมเขียนบทความนี้ขึ้นมาเพราะว่า … ก่อนหน้าที่ผมจะได้เข้ามาศึกษาที่คณะนี้ ผมเองเคยศึกษาหาข้อมูลต่าง ๆ ทำให้ผมพบว่ามันมีข้อมูลอยู่น้อยมากจริง ๆ โดยบทความที่เขียนขึ้นนี้ ซึ่ง เป็นประสบการณ์ตรงจากผมเอง ที่ได้เข้ามาศึกษาและอยากเผยแพร่ประสบการณ์ตรงนี้เพื่อเป็นประโยชน์กับทุกท่านหรือน้อง ๆ ทุกคนที่กำลังสนใจอยากเข้าเรียนที่คณะศิลปกรรมศาสตร์ ภาควิชาทัศนศิลป์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพแห่งนี้ครับ J
ต้องบอกก่อนว่าคณะศิลปกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยกรุงเทพแบ่งออกเป็น 4 ภาควิชาคือ
สาขาวิชาการออกแบบนิเทศศิลป์ (Communication Design)
สาขาวิชาการออกแบบผลิตภัณฑ์ (Product Design)
สาขาวิชาการออกแบบแฟชั่นและสิ่งทอ (Fashion and Textile Design)
สาขาวิชาทัศนศิลป์ (Visual Arts)
** ก่อนอื่นดูรายละเอียดทั่วไปของภาควิชาทัศนศิลป์กันก่อนดีกว่าครับ
ภาควิชาทัศนศิลป์ หรือ Visual Art
สาขาวิชาทัศนศิลป์มีวัตถุประสงค์ที่จะผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้งและกว้างไกล โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาศักยภาพทางความคิด การสร้างสรรค์ การนำเสนอผลงานศิลปกรรมที่ก้าวหน้าและสามารถเชื่อมโยงศิลปะเข้ากับสังคมได้อย่างกว้างขวาง นักศึกษาสาขาวิชาทัศนศิลป์ จะได้เรียนรู้พื้นฐานทางศิลปะ ทฤษฏี ปรัชญาและประวัติศาสตร์ศิลปะ รวมไปถึงการสร้างทักษะความสามารถในเชิงเทคนิคการผลิตผลงาน โดยการศึกษาดังกล่าวจะเปิดโอกาสให้นักศึกษาเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ด้วยการสอนแบบจัดกลุ่มวิจารณ์ การร่วมสัมมนากับคณาจารย์ ศิลปิน และนักวิชาการจากภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย การอบรมเชิงปฏิบัติการรวมไปถึงการร่วมกิจกรรมทางวิชาการที่สาขาวิชาจัดขึ้นร่วมกับองค์กรและสถาบันศิลปะอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศ
คุณกำลังจะเป็นที่ต้องการในอาชีพ
ศิลปิน
อาจารย์สอนศิลปะ
นักเขียนภาพประกอบ
นักวิจารณ์ศิลปะ
นักออกแบบนิทรรศการ หรือร่วมกับสถาบันต่างๆ
เช่น พิพิธภัณฑ์หอศิลป์ สถาบันการศึกษาบริษัทโฆษณา เป็นต้น
หลักสุตร
หลักสูตรศิลปกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาทัศนศิลป์ เป็นหลักสูตร 2 ภาษา แยกออกเป็นแผนกการศึกษาแบบปกติ และแบบสหกิจศึกษา โดยมีรายละเอียดดังนี้
แผนการศึกษา 4 ปี แบบสหกิจศึกษา
จำนวนหน่วยกิตรวมตลอดหลักสูตร 139 หน่วยกิต
หมวดวิชาศึกษาทั่วไป 30 หน่วยกิต
กลุ่มวิชาภาษาอังกฤษ 9 หน่วยกิต
กลุ่มวิชาบังคับ 15 หน่วยกิต
กลุ่มวิชาเลือก 6 หน่วยกิต
หมวดวิชาเฉพาะ 103 หน่วยกิต
วิชาแกน 24 หน่วยกิต
วิชาเอก-บังคับ 70 หน่วยกิต
วิชาเอก-เลือก 9 หน่วยกิต
หมวดวิชาเลือกเสรี 6 หน่วยกิต
รวม 139 หน่วยกิต
ความลับของงานศิลปะที่หลายคนยังไม่รู้
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมภาพที่วาดขึ้นเขาถึงขายแพงกันจัง ... แล้วทำไมมีคนซื้อ ?ผมคิดว่ายังมีอีกหลายคนที่ไม่รู้ ถึงความหมายของงานศิลปะอย่างแท้จริงผมมีอาจารย์ที่สอนวาดภาพอยู่ท่านนึง วันนั้นเห็นอาจารย์นั่งวาดภาพผู้หญิงคนนึง อยู่บนท้องฟ้าอุ้มเด็กตัวเล็ก ๆ อยู่ด้วยคนนึง ด้านล่างของภาพมีดอกบัว ออกดอกสวยงาม และมีเด็กทารกแรกเกิดอยู่ในนั้น ภาพนั้นเป็นสีสลัว ๆ เป็นช่วงพลบค่ำ แต่ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้น เห็นได้อย่างชัดเจน สายตาดูโอบอ้อมอารีมาก ผมถามอาจารย์ว่า "ภาพนี้ขายเท่าไร "อาจาย์ตอบว่า 100,000 บาท - -'' >> ผมถามว่าทำไมอาจารย์ถึงขายแพงขนาดนั้น อาจารย์ตอบว่า "ภาพเนี้ยเป็นภาพจากความฝันของคนที่มาจ้างให้อาจารย์วาด เขาฝันเห็นแม่ของเขาอุ้มเขาขึ้นมาจากดอกบัว" >> หลังจากวันนั้น ผมเข้าใจอย่างสุดซึ่งว่าทำไม ภาพวาดแต่ละภาพถึงแพง นอกเหนือจากฝีมือของช่างวาดที่จะต้องชำนาญแล้ว อีกสิ่งหนึ่งคือภาพถ่ายไม่สามารถทำเหมือนภาพวาดได้ แต่ภาพวาดสามารถทำได้ยิ่งกว่าภาพถ่าย ... คุณลองคิดดูสิครับใครจะไปถ่ายภาพจากความฝันได้ นอกเหนือจากสร้างสรรค์มันขึ้นมาด้วยศิลปะ :))))
ไม่มีพื้นฐานทางศิลปะเลย สามารถเข้ามาเรียนที่นี่ได้ไหม ?
ข้อดีของการเข้ามาเรียนที่นี่คือเราจะมีการปูพื้นฐานใหม่พร้อม ๆ กันทั้งหมดครับ ไม่ต้องกลัวว่าเราจะทำไม่ได้ ขอแค่รักในการทำงานศิลปะครับ และต้องขยันครับ ไม่ว่าเรียนที่ไหนคณะอะไร ก็ต้องขยันทั้งนั้นล่ะครับ งานค่อนข้างจะเยอะเหมือนกันครับก็ต้องพยายามแบ่งเวลาดีดีครับ แล้วก็จะเรียนได้อย่างมีความสุขแน่นอนครับ ที่นี่เราอยู่กันแบบพี่น้องครับ J
มีกิจกรรมอะไรบ้างถ้าเข้ามาเรียนที่นี่ ?
ก่อนอื่นจะมีการปฐมนิเทศของมหาวิทยาลัยซึ่งอันนี้ต้องเข้ากันทุกคนครับ และก่อนหน้านั้นก็จะเป็นกิจกรรมพี่พบน้องซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 วัน จัดโดยพี่ ๆ ของคณะศิลปกรรมศาสตร์ ซึ่งจะเรียกตัวเองว่าพี่ Smo เป็นกิจกรรมสนุกสนานครับ ทำให้ได้พบเพื่อน ๆ ใหม่ทีเราจะได้อยู่ด้วยกันถึง 4 ปี … อันนี้ส่วนตัวผมแนะนำให้มาครับเพราะมันดีมาก ๆ ซึ่งเราจะได้รู้จักกับเพื่อนทั้ง 4 เอกของคณะศิลปกรรมทั้งหมดครับ คนเยอะดีครับ มานั่งดูสาว ๆ ก็คุ้มแล้วครับจากนั้นมันก็จะมีการซ้อมเชียร์เล็ก ๆ น้อย ๆ ครับ สำหรับกีฬาสีของคณะอันนี้ไม่บังคับ J
มีสิทธิพิเศษอะไรบ้างสำหรับเด็กศิลปกรรม ?
คณะเราเป็นคณะเดียวครับที่สามารถใส่ชุดนอกมาเรียนได้ ย้ำครับว่าใส่ชุดนอกมาเรียนได้ เจ๋งไปเลยใช่มั๊ยล่ะ 555 ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่า คณะเราเป็นคณะเกี่ยวกับศิลปะไงครับ ถ้าสมมุติคนที่เรียนแฟชั่นแล้วไม่สามารถแต่งตัวแนว ๆ มาเรียนได้มันก็ไม่เกิดการเรียนรู้ที่สนุกไงครับ แล้วก็ถ้าให้ภาควิชาทัศนศิลป์ใส่ชุดนัดศึกษามาวาดรูปก็เปรอะเปื้อนกันพอดี เราจึงสามารถใส่ชุดนอกมาเรียนได้ครับ ชิว ๆ J ส่วนวิชานอกคณะอื่น ๆ เช่น ภาษาอังกฤษ เราก็ควรใส่ชุดนักศึกษานะครับ
เรียนทัศนศิลป์แตกต่างจากจิตรกรรมยังไง ?
ข้อดีของการเข้ามาศึกษาที่นี่คือเราจะได้ศึกษาและปูพื้นฐานใหม่พร้อมกันครับ วิชาหลักที่เข้ามาแล้วต้องเจอตอนแรกคือวิชา ดรออิ้ง ครับต้องเรียนทุกสาขาวิชาของศิลปกรรม แต่ภาควิชาทัศนศิลป์จะมีดรออิ้ง2 ตัวครับ คือดรออิ้งพื้นฐานกับดรออิ้งสร้างสรรค์ ถ้าถามว่าทัศนศิลป์ ม.กรุงเทพ แตกต่างจากจิตรกรรมอย่างไร คงจะเป็นในส่วนของตัวหลักสูตรเองที่นี่เราเน้นสร้างสรรค์ครับ ตามสโลแกนของมหาวิทยาลัย ต้องบอกเลยว่าหลักสูตรตอนนี้ ของทัศนศิลป์เราไม่มีเรียนพอร์ทเทรด (วาดภาพคนครึ่งตัว) และ ฟิกเกอร์ (วาดภาพคนเต็มตัว) ครับ แต่เราสามารถฝึกฝนด้วยตัวเองได้ครับ เพราะจากที่สอบถามมาที่นี่จะเน้นงานศิลปะที่เป็นสากลมากกว่าครับ เป็นแนว ๆ ศิลปะร่วมสมัย เกี่ยวข้องกับการใช้ศิลปะมาตอบสนองความคิดของตัวเอง ไม่ใช่แค่วาดรูปอย่างเดียว มีการใช้วัสดุต่าง ๆ มาทำเป็นงานศิลปะ ซึ่งพวกเราทัศนศิลป์เมื่ออยู่ชั้นปีที่ 3 ก็จะต้องเริ่มศึกษาการจัดนิทรรศการแสดงงานครับ
แล้วอีกอย่างที่สำคัญมากเลยนะครับซึ่งเราต้องทำตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 - 4 เลยก็คือ การเดินทางไปดูงานศิลปะตามแกลเลอรี่ต่าง ๆ หลัก ๆ ก็จะอยู่ในกรุงเทพนั่นละครับ เรียกได้ว่ามีงานเปิดที่ไหนก็ต้องไปครับ เพราะเราเรียนศิลปะ สิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือที่เรื่องของ Connecting ครับ เราต้องไปงานบ่อย ๆ แล้วเราก็จะได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างครับ ที่ต้องไปบ่อย ๆ ก็จะมี
-Bangkok University Gallery (BUG) หอศิลป์มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตกล้วยน้ำไท
-หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC)
-Jim Thompson
-100Tonson Gallery
แล้วอีกอย่างที่สำคัญมากเลยนะครับซึ่งเราต้องทำตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 - 4 เลยก็คือ การเดินทางไปดูงานศิลปะตามแกลเลอรี่ต่าง ๆ หลัก ๆ ก็จะอยู่ในกรุงเทพนั่นละครับ เรียกได้ว่ามีงานเปิดที่ไหนก็ต้องไปครับ เพราะเราเรียนศิลปะ สิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือที่เรื่องของ Connecting ครับ เราต้องไปงานบ่อย ๆ แล้วเราก็จะได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างครับ ที่ต้องไปบ่อย ๆ ก็จะมี
-Bangkok University Gallery (BUG) หอศิลป์มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตกล้วยน้ำไท
-หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC)
-Jim Thompson
-100Tonson Gallery
เทอม 1 ปี 1
FA101 วิชาดรออิ้ง1 (DrawingI)
จะได้เรียนเกี่ยวกับการวาดภาพเหมือนบนกระดาษบรู๊ฟโดยใช้ดินสอ EE เกรยอง ดินสอพาสเทลสีขาวบนกระดาษเทาต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และสังเกตุแสงเงาของวัตถุ ซึ่งอาจารย์จะเป็นคนจัดวัตถุจริงให้ในการทำงานแต่ละครั้ง และมีการวิจารย์ผลงานกันทุกครั้งที่มีการเรียนการสอนและส่งงาน อาจารย์จะสอนขั้นตอนการวาดภาพทุกอย่างครับทั้งตัวทฤษฎีและปฏิบัติ เรียกได้ว่าปูพื้นฐานกันใหม่ให้แน่นไปเลยครับ
VA121 วิชาเพ้นติ้ง1 (PaintingI)
มาถึงวิชาเพ้นกันแล้ว โดยวิชาเพ้น1 อุปกรณ์ที่เราจะใช้กันคือ สีอะคลีลิคบนเฟรมผ้าใบขนาด 50x60 ซม. ซึ่งก็จะมีการเรียนการสอนคล้ายกับการเรียนดรออิ้งแต่เปลี่ยนมาใช้สีครับ โดยอาจารย์จะจัดหุ่นนิ่งให้ในแต่ละสัปดาห์ และจะมีการใช้เวลามากกว่าคือ จะมีกำหนดส่งงานอาทิตย์ละหนึ่งครั้งคือเราต้องหาเวลาว่างของการเรียนในแต่ละสัปดาห์มาทำ และในคาบที่มีเรียนเพ้นก็จะเป็นการส่งงานรวมถึงมีการวิจารณ์งานให้คะแนนใจแต่ละชิ้นงานและก็เรียนภาคทฤษฎีด้วยครับ
FA103 Two Dimensional Design วิชาออกแบบงานสองมิติ
เป็นวิชาที่จะสอนให้เราฝึกออกแบบงานจาก เส้น รูปร่าง รูปทรง จุด เป็นการสร้างรูปภาพจากทัศธาตุอะไรประมาณนี้ เพื่อให้เกิดความรู้สึกต่าง ๆ เช่น ความสมดุล ความรุนแรง แรงกดดัน การเคลื่อนไหว เป็นงานออกแบบที่ดูง่ายแต่เรียนจริงๆ ก็อาจจะปวดหัวนิดนึงนะครับ คือ อาจารย์เค้าจะตั้งโจทย์ให้เราในชั่วโมงเรียน หน้าที่ของเราคือ วาด ๆ ๆ ไปเรื่อย ๆ ครับ วาดเยอะ ๆ เป็นรูปเล็ก ๆ ขนาด 5 x 5 cm พอถึงเวลาก็เอาไปให้อาจารย์ดู ไปคุยวาเราชอบอันไหน แล้วก็คัดงานนั้นมาขยายแล้วทำจริง ๆ ครับ ทำแบบนี้ไปตลอดทั้งเทอมโดยโจทย์ก็จะยากขึ้น และเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ครับ
FA105 History of Arts I
วิชาประวัติศาสตร์ศิลปะ ตัวที่หนึ่ง จริง ๆ เป็นหนึ่งในวิชาที่ผมชอบมาก ๆ เลยนะครับวิชานี้ แต่ต้องบอกเลยว่า เป็นหนึ่งวิชาที่ผมคิดว่ามีเด็กทัศนศิลป์ดรอปทุกปีครับ ความยากง่ายมันอยู่ที่ การเรียนวิชานี้เป็นการวิเคราะห์ทั้งหมดครับ และต้องวิเคราะห์ด้วยตัวเองไม่สามารถ Copy จากอินเตอร์เน็ตได้ แต่เราไช้หาข้อมูลสนับสนุนได้ คือเราต้องเข้าใจแก่นแท้ของมันเกี่ยวกับความเป็นมาของศิลปะ ซึ่งวิชานี้ในขั้นต้น อาจารย์จะสอนตั้งแต่กำเนิดมนุษย์เลยครับ ตั้งแต่อยู่ในถ้ำ ภาพวาดในถ้ำ มาจนถึงยุคอียิปต์โบราณเลยครับ เป็นการเริ่มต้นอารยธรรมของมนุษย์ และเราต้องตั้งคำถามตลอดเวลา ว่าทำไม? อะไร? ยังไง? ซึ่งวิชานี้ทำให้ผมรู้ด้วยนะครับว่า พีระมิดสร้างขึ้นมาได้ยังไง หลังจากที่ผมสงสัยมาตลอดชีวิต เรียกได้ว่ากระจ่างเพราะวิชานี้เลยครับ 555 แล้วคือก่อนจบวิชานี้สิ่งที่ นศ. หวั่น ๆ ที่สุดก็คือการทำรายงานครับ (อาจารย์แกเรียกว่าอย่างงั้น) แต่ผมคิดว่ามันควรเรียกว่าวิจัยมากกว่า 555 เพราะเราต้องเสนอหัวข้อครับว่า เราจะทำเกี่ยวกับเรื่องอะไร เป็นงานกลุ่มจับกลุ่มเองครับ ตัวอย่างเช่น "ทำไมท้องฟ้าถึงสีฟ้า" "การเขียนอักษรฮีโรกราฟฟริกทำได้อย่างไร" "การทำมัมมี่ทำอย่างไร" อะไรประมาณนี้อะครับ ซึ่งพอถึงคาบสุดท้ายเราต้องนำข้อมูลทั้งหมดที่เรารีเสริช รวมถึงผลสรุปของเรามาเสนอหน้าห้องเรียน โดยรวมมันก็สนุกปน ๆ กับเครียดนะครับที่กลัวหาคำตอบไม่ได้ .... ผมมีตัวอย่างงานผมที่ผมเรียนมาให้ดูนะครับ โดยงานที่ผมทำคื่อ "กรรมวิธีการทำขนมปังในยุคอียิปต์โบราณ" ครับ (ต้องลงพื้นที่ทำกันจริง ๆ เลยครับ ไปดูกัน)
FA107 Color Theory ทฤษฎีสี
วิชาทฤษฎีสี โดยรวมเป็นวิชาที่ง่ายและสนุกครับ คือได้ผสมสีกันมันส์เลยก็ว่าได้ สีที่ใช้ในวิชานี้คือสีโปสเตอร์ครับ คืออาจารย์จะสอนเราเกี่ยวกับหลักการของสี สีคู่ตรงข้าม สีขั้นที่หนึ่งขั้นที่สอง ขั้นที่สาม หลักการของสีร้อนสีเย็น สีให้ความรู้สึกอะไรประมาณนี้ครับ มีโจทย์ให้ทำในห้องและมีโจทย์ให้ทำเป็นการบ้าน ยากง่ายขึ้นไปเรื่อย ๆ ครับ วิชานี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงครับ แค่ชอบและเอาใจใส่ในงานเท่านั้น
และอีกสองวิชาที่เหลือเป็นวิชานอกคณะครับสำหรับเทอมนี้
GE111 Value of Graduates (จิตอาสา)
EN011 English in Action (ภาษาอังกฤษ 1 )
เทอม 2 ปี 1
FA102 Drawing II วิชาดรออิ้ง2
หลังจากที่เราจบวิชาดรออิ้งจากเทอมที่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เทอมที่แล้วนั้นเราจะได้วาดหุ่นนิ่งต่าง ๆ ตลอดเวลาที่เราเรียน คือเน้นการฝึกทักษะของเรานั่นเองให้เราวาดสิ่งต่าง ๆ คือวาดให้สมส่วนและสวยงาม แต่พอมาถึงดรออิ้ง 2 นี้นะครับ จริง ๆ อาจจะเรียกได้ว่ามันคือวิชาดรออิ้งสร้างสรรค์ครับ คือเราจะได้รับการลดเรื่องการเน้นวาดให้เหมือนลงมา คืออาจไม่จำเป็นต้องวาดเหมือนก็ได้ครับ แต่เน้นความคิด การคิดสร้างสรรค์ สร้างงานดรออิ้งออกมาจากจินตนาการของเรา โดยจะดูจากรูปหรือจินตนาการอะไรก็ได้ครับ สร้างสรรค์มันออกมาตามโจทย์ที่ได้ หรือในบางครั้งอาจารย์ก็ให้เราคิดโจทย์เองครับ จะใช้สีไม้ก็ได้ครับ การตัดภาพแปะก็ได้ครับ ก็จะเห็นได้ว่ามันเริ่มสนุกขึ้นเรื่อย ๆ ครับ สำหรับการดรออิ้ง :)
FA104 Three Dimensional Design วิชาออกแบบสามมิติ
เป็นภาคต่อสองวิชาออกแบบสองมิตินั่นเองครับ ซึ่งสำหรับผมนะผมจะเบื่อวิชาสองมิติมากครับ แต่พอมาเป็นวิชาสามมิติ มันกลับสนุกขึ้นมาซะอย่างนั้น คือลักษณะการเรียนจะคล้ายกับการเรียนสองมิติเลยครับ มีการกำหนดโจทย์เกี่ยวกับความสมดุล แรงโน้มถ่วงอะไรพวกนี้ แต่จะแตกต่างตรงที่คราวนี้เราต้องทำงานออกมาในแบบสามมิติครับ คือจับต้องได้ ใครมีไอเดียอะไรสนุก ๆ ดีดี ก็จัดไปได้เลย โดยแต่ละครั้งที่ทำงาน สุดท้ายก็ต้องมานั่งวิจารณ์งานของเพื่อน กันและกันนั่นแหละครับ เพื่อให้เราพัฒนาไปเรื่อย ๆ ครับ
FA106 History of Arts II ประวิติศาสตร์ศิลป์2
ยินดีด้วยนะครับสำหรับใครที่ผ่านจากวิชาประวัติศาสตร์ศิลป์ตัวแรก เพราะนี่คือภาคต่อของ HIS1 นั่นเองครับ จริง ๆ วิชานี้ไม่ได้เป็นวิชาที่ยากอะไรหากแต่เราต้องอ่านหนังสือครับ ทำความเข้าใจกับมัน แค่นั้นเอง โดยจากความเดิมตอนที่แล้ว ประวัติศาสตร์ศิลป์สอนเกี่ยวกับอารยธรรมแรกเริ่มของมนุษย์หลาย ๆ อย่าง พอมาถึง HIS2 เนื้อหามันจะเข้มข้นขึ้นครับ แต่ไม่ยากถ้าเราอ่านครับ โดยจะมาเน้นในเรื่องของศิลปะลัทธิต่าง ๆ แล้วครับ เช่น Cubism Impressionism Realism Astract รวมถึงเราจะได้ทำความรู้จักกับศิลปินต่าง ๆ หลายคนด้วยครับ เช่น Paul Cezanne Picasso คือเราศึกษาตามแบบฉบับสากลนะครับ เป็นศิลปินต่างประเทศทั้งหมดครับ ที่มาที่ไปต่าง ๆ มีเหตุมีผลเชื่อมโยงกันครับ และสุดท้ายเราก็ต้องทำรายงานเรื่องที่เราสนใจอีกเช่นเคยพร้อมออกไปพูดหน้าห้องครับ ... และขอบอกอีกว่าคราวนี้ งานเดี่ยวครับผม :)
FA108 Basic Visual Computing คอมพิวเตอร์พื้นฐาน
วิชานี้ผ่อนคลายครับสบาย ๆ ชิว ๆ กันเลย สำหรับใครที่ใช้คอมบ่อยอยู่แล้วยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ วิชานี้เค้าจะสอนเราเกี่ยวกับพื้นฐานหลัก ๆ ของ Phostoshop และ Illustation ครับ ซึ่งมันจะจำเป็นมากครับในการทำแฟ้มสะสมผลงานในชั้นปีที่สูงขึ้นไป
VA122 Painting II เพ้นติ้ง2 (สีน้ำมัน)
มาถึงวิชาเพ้นกันอีกแล้ว โดยวิชาเพ้น2 เป็นวิชาหลักของภาคเรานั่นเอง อุปกรณ์ที่เราจะใช้กันคือ สีน้ำมันบนเฟรมผ้าใบขนาด 50x60 ซม. เหมือนเดิมครับ โดยอาจารย์จะจัดหุ่นนิ่งให้ในแต่ละสัปดาห์ และจะมีการใช้เวลาคือ จะมีกำหนดส่งงานอาทิตย์ละหนึ่งครั้งคือเราต้องหาเวลาว่างของการเรียนในแต่ละสัปดาห์มาทำ และในคาบที่มีเรียนเพ้นก็จะเป็นการส่งงานรวมถึงมีการวิจารณ์งานให้คะแนนใจแต่ละชิ้นงานและก็เรียนภาคทฤษฎีด้วยครับ
หลังจากที่เราจบวิชาดรออิ้งจากเทอมที่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เทอมที่แล้วนั้นเราจะได้วาดหุ่นนิ่งต่าง ๆ ตลอดเวลาที่เราเรียน คือเน้นการฝึกทักษะของเรานั่นเองให้เราวาดสิ่งต่าง ๆ คือวาดให้สมส่วนและสวยงาม แต่พอมาถึงดรออิ้ง 2 นี้นะครับ จริง ๆ อาจจะเรียกได้ว่ามันคือวิชาดรออิ้งสร้างสรรค์ครับ คือเราจะได้รับการลดเรื่องการเน้นวาดให้เหมือนลงมา คืออาจไม่จำเป็นต้องวาดเหมือนก็ได้ครับ แต่เน้นความคิด การคิดสร้างสรรค์ สร้างงานดรออิ้งออกมาจากจินตนาการของเรา โดยจะดูจากรูปหรือจินตนาการอะไรก็ได้ครับ สร้างสรรค์มันออกมาตามโจทย์ที่ได้ หรือในบางครั้งอาจารย์ก็ให้เราคิดโจทย์เองครับ จะใช้สีไม้ก็ได้ครับ การตัดภาพแปะก็ได้ครับ ก็จะเห็นได้ว่ามันเริ่มสนุกขึ้นเรื่อย ๆ ครับ สำหรับการดรออิ้ง :)
FA104 Three Dimensional Design วิชาออกแบบสามมิติ
เป็นภาคต่อสองวิชาออกแบบสองมิตินั่นเองครับ ซึ่งสำหรับผมนะผมจะเบื่อวิชาสองมิติมากครับ แต่พอมาเป็นวิชาสามมิติ มันกลับสนุกขึ้นมาซะอย่างนั้น คือลักษณะการเรียนจะคล้ายกับการเรียนสองมิติเลยครับ มีการกำหนดโจทย์เกี่ยวกับความสมดุล แรงโน้มถ่วงอะไรพวกนี้ แต่จะแตกต่างตรงที่คราวนี้เราต้องทำงานออกมาในแบบสามมิติครับ คือจับต้องได้ ใครมีไอเดียอะไรสนุก ๆ ดีดี ก็จัดไปได้เลย โดยแต่ละครั้งที่ทำงาน สุดท้ายก็ต้องมานั่งวิจารณ์งานของเพื่อน กันและกันนั่นแหละครับ เพื่อให้เราพัฒนาไปเรื่อย ๆ ครับ
FA106 History of Arts II ประวิติศาสตร์ศิลป์2
ยินดีด้วยนะครับสำหรับใครที่ผ่านจากวิชาประวัติศาสตร์ศิลป์ตัวแรก เพราะนี่คือภาคต่อของ HIS1 นั่นเองครับ จริง ๆ วิชานี้ไม่ได้เป็นวิชาที่ยากอะไรหากแต่เราต้องอ่านหนังสือครับ ทำความเข้าใจกับมัน แค่นั้นเอง โดยจากความเดิมตอนที่แล้ว ประวัติศาสตร์ศิลป์สอนเกี่ยวกับอารยธรรมแรกเริ่มของมนุษย์หลาย ๆ อย่าง พอมาถึง HIS2 เนื้อหามันจะเข้มข้นขึ้นครับ แต่ไม่ยากถ้าเราอ่านครับ โดยจะมาเน้นในเรื่องของศิลปะลัทธิต่าง ๆ แล้วครับ เช่น Cubism Impressionism Realism Astract รวมถึงเราจะได้ทำความรู้จักกับศิลปินต่าง ๆ หลายคนด้วยครับ เช่น Paul Cezanne Picasso คือเราศึกษาตามแบบฉบับสากลนะครับ เป็นศิลปินต่างประเทศทั้งหมดครับ ที่มาที่ไปต่าง ๆ มีเหตุมีผลเชื่อมโยงกันครับ และสุดท้ายเราก็ต้องทำรายงานเรื่องที่เราสนใจอีกเช่นเคยพร้อมออกไปพูดหน้าห้องครับ ... และขอบอกอีกว่าคราวนี้ งานเดี่ยวครับผม :)
FA108 Basic Visual Computing คอมพิวเตอร์พื้นฐาน
วิชานี้ผ่อนคลายครับสบาย ๆ ชิว ๆ กันเลย สำหรับใครที่ใช้คอมบ่อยอยู่แล้วยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ วิชานี้เค้าจะสอนเราเกี่ยวกับพื้นฐานหลัก ๆ ของ Phostoshop และ Illustation ครับ ซึ่งมันจะจำเป็นมากครับในการทำแฟ้มสะสมผลงานในชั้นปีที่สูงขึ้นไป
VA122 Painting II เพ้นติ้ง2 (สีน้ำมัน)
มาถึงวิชาเพ้นกันอีกแล้ว โดยวิชาเพ้น2 เป็นวิชาหลักของภาคเรานั่นเอง อุปกรณ์ที่เราจะใช้กันคือ สีน้ำมันบนเฟรมผ้าใบขนาด 50x60 ซม. เหมือนเดิมครับ โดยอาจารย์จะจัดหุ่นนิ่งให้ในแต่ละสัปดาห์ และจะมีการใช้เวลาคือ จะมีกำหนดส่งงานอาทิตย์ละหนึ่งครั้งคือเราต้องหาเวลาว่างของการเรียนในแต่ละสัปดาห์มาทำ และในคาบที่มีเรียนเพ้นก็จะเป็นการส่งงานรวมถึงมีการวิจารณ์งานให้คะแนนใจแต่ละชิ้นงานและก็เรียนภาคทฤษฎีด้วยครับ
และอีกสองวิชาที่เหลือเป็นวิชานอกคณะครับสำหรับเทอมนี้
EN012 English for Daily Life (ภาษาอังกฤษ2)
GE113 Thai Language for Creativity (วิชาภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร)
เทอม 1 ปี 2
VA223Sculpture I วิชาประติมากรรม I
วิชานี้เป็นหนึ่งในวิชาเอกสำหรับเทอมนี้นะครับ ก็คือวิชาทำงานศิลปะสามมิตินั่นเอง โดยที่ในเทอมนี้ น.ศ. จะต้องทำงานจำนวนทั้งสิ้น 2 ชิ้นด้วยกัน นั่นก็คือ งานปูนปลาสเตอร์ 1 ชิ้น และงานไม้ 1 ชิ้น โดยงานทั้งสองชิ้นจะต้องขึ้นรูปด้วยดินเหนียวก่อน (และงานไม้น.ศ.ทุกคนต้องเข้าชอปไม้ ปฏิบัติงานจริงนะครับ) ไม้ที่ใช้ทำงานคือ ไม้สนเกรด A แบบแผ่นเดียวนะครับ ไม่ใช้ไม่ต่อนะ ซึ่งตัวไม้เนี้ยเราต้องซื้อเองครับ ราคาจะอยู่ที่ 300 - 500 บาทประมาณนี้ โดยจะแบ่งเวลาเป็นทำงานปูน 7 สัปดาห์ และงานไม้ 7 สัปดาห์ รวม 14 สัปดาห์ นั่นเท่ากับเทอมหนึ่งพอดีครับ ซึ่งเวลาทำงานจริง ๆ อาจะเหลือแค่ 6 สัปดาห์ก็ได้ ถ้ารวมกับการพรีเซ้นผลงานทั้งสองชิ้นด้วยครับ งั้นเดี๋ยวเราไปดูภาพบรรยากาศการเรียนวิชานี้กันเลยครับ ซึ่งบอกได้เลยว่าเปื้อนปูนสลับกะเศษขี้เลื่อยไม้กันเป็นแถว
ดูสภาพหลังจากเข้าชอปไม้ แนะนำให้ใส้ผ้าปิดปากกันด้วยนะครับ ^^
VA224 Printmaking I วิชาภาพพิมพ์ I
วิชานี้ก็เป็นวิชาเอกเหมือนกัน งานค่อนข้างเยอะครับเพราะเราต้องทำควบคู่กับวิชาประติกรรมด้วยและวิชาอื่น ๆ อีกซึ่งสำหรับวิชาภาพพิมพ์ตัวแรกนี้นะครับ อาจารย์ก็จะสอนเราเกี่ยวกับขั้นตอนกระบวนการของการทำภาพพิมพ์ในแบบพื้นฐานเลยครับ เรียกว่าเบสิกเลย ให้เราคุ้นเคยกับมัน วิชาภาพพิมพ์ โดยหลักแล้วก็คือการทำแม่พิมพ์แล้วก็พิมพ์อะครับ เพื่อให้เกิดเป็นงานของเราและมันก็ต้องสามารถพิมพ์ซ้ำได้ด้วยครับ การเรียนทั้งหมด 14 สัปดาห์ แบ่งเป็นเรียนภาพพิมพ์ 7 สัปดาห์ แล้วก็ ซิลสกรีน 7 สัปดาห์ครับ เดี๋ยวผมจะอัพรูปให้ดูอีกทีนะครับสำหรับวิชานี้
VA225 Photography วิชาถ่ายภาพ
วิชานี้เป็นวิชาสบาย ๆ ครับไม่ยากเลย ยิ่งถ้าใครเป็นคนชอบถ่ายรูปนะครับที่ง่ายเข้าไปใหญ่ โดยรวมวิชานี้ อาจารย์น่ารักเป็นกันเองดีครับ สอนตั้งแต่ขั้นตอนการถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์มไปจนถึงกล้องโปรเลยครับ (ที่มอมีกล้องฟิล์มให้ยืม วันละ 20 บาท) สิ่งที่เราต้องซื้อก็คือกระดาษล้างรูปครับ ก็แพงเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน แล้วก็ม้วนฟิล์มครับ โดยเราจะต้องถ่ายรูปทุกอาทิตย์ครับ โดยแต่ละอาทิตย์อาจารย์ก็จะกำหนดโจทย์ให้เรา ว่าจะให้ถ่ายอะไรแบบไหนยังไง อาจจะมีจับคู่ถ่ายกับเพื่อนบ้างอะไรบ้าง ก็เดินถือกล้องอยู่รอบ ๆ มอ รอบ ๆ คณะ นั่นแหละครับ เจอสาว ๆ ตรงไหนก็ทำเนียนขอถ่ายรูปได้เลย 555 ก็คือพอเราถ่ายจนหมดฟิล์มใช่ป่ะครับ เราก็ต้องมาล้างครับ ถ้าเคยดูหนังพวกชัตเตอร์กดติดวิญญาณ ก็ห้องแดง ๆ นั่นแหละครับ ที่มอจะมีอุปกรณ์ให้เราตรงนี้ครับ แล้วอาจารย์ก็จะสอนเราในการล้างฟิล์ม พอล้างเสร็จก็จะรู้แล้วครับว่าใครถ่ายดีไม่ดี ถ่ายติดบ้างไม่ติดบ้างสำหรับกล้องฟิล์ม แต่อาจารย์ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรครับ โดยรวมก็สนุกดี ซึ่งรูปแบบการเรียนจะคล้าย ๆ กับวิชาประติมากรรมแล้วก็ภาพพิมพ์นั่นแหละครับ คือเรียนกล้องฟิล์ม 7 อาทิตย์ และก็กล้องดิจิตอล 7 อาทิตย์ ซึ่งพอมาถึงการเรียนกล้องดิจิตอลนั้นจริง ๆ มันสนุกกว่าเรียนล้างฟิล์มอีกนะครับ คืออาจารย์เค้าให้ไปหาสัมภาษณ์คนที่เราอยากคุยด้วยหรือเป็นไอดอลของเราครับ แบบเป็นการเป็นงานเลยนะ แล้วก็ถ่ายรูปมา แล้วนำข้อมูลทั้งหมดมาทำหนังสือครับ ซึ่งหนังสือเราก็ต้องทำเองนะเป็น Photos Book ของเราเลย สนุกมากครับ (อาจารย์สอนเย็บหนังสือด้วย เอาไปทำขายได้เลย 555 )
VA231 Contemporary Arts and Postmodern Issues ศิลปะรวมสมัย
วิชานี้เป็นวิชาเลคเชอร์ครับ เตรียมสมุดไป จดครับจดแนะนำให้จดเพราะวิชานี้ดีมากนะครับ ในแง่ของการเรียนรู้ทฤษฏีของศิลปะสมัยใหม่ ซึ่งหาไม่ได้จากวิชาอื่นนะครับ ทำให้เราเข้าใจมากขึ้นถึงกระบวนการคิด ของคน และการพัฒนาของศิลปะแบบตะวันตกครับ และมันก็จะทำให้เรามีพื้นฐานที่ดีเมื่อเราขึ้นชั้นปีที่สูงขึ้นไปครับ
และอีกหนึ่งวิชาที่เหลือเป็นวิชานอกคณะครับสำหรับเทอมนี้
GE112 Information Technology and the Future World (วิชาเทคโนโลยีนวัตกรรมเพื่อโลก)